FIFO (First In, First Out) เป็นหลักการจัดการสินค้าคงคลังที่กำหนดให้สินค้าที่เข้ามาก่อน (หรือสินค้าที่มีอายุมากกว่า) ถูกนำออกไปก่อนเมื่อมีการขายสินค้า หรือเมื่อมีการใช้สินค้าคงคลัง วิธีนี้ช่วยให้สินค้าคงคลังที่เหลืออยู่มีอายุการเก็บที่ล่าสุดที่สุด เหมาะสำหรับธุรกิจที่สินค้าสามารถเสื่อมสภาพหรือมีวันหมดอายุ
1. ต้นทุนขายรวม: คำนวณจากการขายสินค้าตามลำดับที่ซื้อเข้ามาก่อน (สินค้าที่มีราคาต่ำกว่า) จนกว่าจะหมด
ต้นทุนขายรวม = (จำนวนสินค้าที่ขาย × ราคาซื้อของสินค้าตามลำดับ FIFO) รวมทั้งหมด
2. มูลค่าสินค้าคงเหลือปลายงวด: คำนวณจากสินค้าที่เหลืออยู่ในสต็อกตามลำดับ FIFO
มูลค่าสินค้าคงเหลือ = (จำนวนสินค้าที่เหลือ × ราคาซื้อของสินค้าที่เหลืออยู่) รวมทั้งหมด
3. กำไรขั้นต้น: คำนวณจากการหักต้นทุนขายรวมจากรายได้รวมที่ได้จากการขายสินค้า
กำไรขั้นต้น = (รายได้รวมจากการขายสินค้า) - (ต้นทุนขายรวม)
วันที่ซื้อ | จำนวน | ราคาต่อชิ้น |
---|---|---|
2024-08-01 | 100 | 10.00 |
2024-08-10 | 150 | 12.00 |
2024-08-15 | 200 | 11.00 |
วันที่ขาย | จำนวน | ราคาต่อชิ้น |
---|---|---|
2024-08-12 | 80 | 20.00 |
2024-08-20 | 120 | 20.00 |
2024-08-25 | 50 | 20.00 |
การขาย 80 ชิ้น วันที่ 2024-08-12:
การขาย 120 ชิ้น วันที่ 2024-08-20:
การขาย 50 ชิ้น วันที่ 2024-08-25:
รวมต้นทุนขายรวม: 800.00 + 2,570.00 + 550.00 = 3,920.00
กำไรขั้นต้น: 5,000.00 - 3,920.00 = 1,080.00
คำอธิบาย | ค่า |
---|---|
มูลค่าสินค้าคงเหลือปลายงวด | 0 |
ต้นทุนขายรวม | 0 |
กำไรขั้นต้น | 0 |
มูลค่าสินค้าคงเหลือปลายงวด: มูลค่ารวมของสินค้าที่เหลืออยู่ในสต็อกเมื่อสิ้นสุดการคำนวณ
ต้นทุนขายรวม: ต้นทุนรวมของสินค้าที่ขายออกไป ซึ่งคำนวณตามลำดับ FIFO
กำไรขั้นต้น: กำไรที่ได้จากการขายสินค้า (รายได้รวมจากการขาย - ต้นทุนขายรวม)